ที่ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.มหาสารคาม นายธรรมนูญ แก้วคำ รอง ผวจ.มหาสารคาม เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ย.2564 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.โกสุมพิสัย 13 ตำบล 113 หมู่บ้าน,อ.กันทรวิชัย 5 ตำบล 56 หมู่บ้าน,อ.เมืองมหาสารคาม 5 ตำบล 44 หมู่บ้าน,อ.เชียงยืน 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน,อ.กุดรัง 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน ,ที่นา 87,264 ไร่ มีหมู่บ้านถูกตัดขาด 3 อำเภอ 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน  
          สถานการณ์น้ำแม่น้ำชี ในภาพรวม ที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น ระดับน้ำกลับเข้าสู่เกณฑ์ปกติแล้ว ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำ 2,649.96 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 119 % วันนี้ระบายน้ำ 18 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเขื่อนฯจะลดการระบายน้ำลงจนเหลือวันละ 15 ล้าน ลบ.ม.หลังจากนั้นจะพิจารณาเพื่อปรับสมดุลน้ำอีกครั้ง ส่วนระดับน้ำตลอดลำน้ำชีในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ระดับน้ำลดลง น้ำที่ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำไหลกลับลงสู่ลำน้ำชีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีน้ำค้างทุ่ง ที่ห้วยสามสัตย์ ลึก 1.5-2 ม.พื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ หรือประมาณ 60 ล้าน ลบ.ม.คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ  
          ที่ อ.โกสุมพิสัย ระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่เฉลี่ยวันละ 10 ซม.ยังมีหมู่บ้านที่ถูกตัดขาด 2 หมู่บ้าน คือ บ.หนองขนวน ต.โพนงาม และ บ.ปลาปัด ต.ยางท่าแจ้ง แต่ระดับน้ำลดลงเฉลี่ย 10-15 ซม.ยังต้องใช้รถยกสูงในการสัญจร คาดว่าประมาณ 4-5 วัน จะสามารถใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัญจรเข้าหมู่บ้านได้ โดยหลังน้ำลดพบว่าถนนหลายได้รับความเสียหาย เช่น ถนนริมแม่น้ำชี ระหว่าง ต.หัวขวาง ต.หนองบอน ต.โพนงาม ตลอดแนว เป็นหลุมลึก 50-60 ซม.บางจุดถนนถูกน้ำกัดเซาะขาด ไม่สามารถสัญจรได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนพื้นที่ อ.กันทรวิชัย อ.กุดรัง และ อ.เมืองมหาสารคาม ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน 
         นายธรรมนูญฯ รอง ผวจ.มหาสารคาม กล่าวว่า ระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ ใกล้จะเข้าสู่เกณฑ์ปกติแล้ว ให้ทุกอำเภอดำเนินการหลังน้ำลด สำรวจความเสียหายทุกด้าน โดยเฉพาะถนนหนทาง ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าประเมิน เพื่อซ่อมแซม ฟื้นฟูโดยเร็ว การขนย้ายสิ่งของจากที่สูงกลับเข้าบ้านเรือน รวมถึงการทำความสะอาดสถานที่ วัสดุตกค้างบนไหล่ทาง ต้องบูรณาการความร่วมมือกันทุกหน่วยงานและจิตอาสา หากเกินศักยภาพ ให้ขอรับการสนับสนุนกับหน่วยงานระดับจังหวัดได้ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
สุรเดช/ข่าว/17 พ.ย.64