ที่ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.มหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์  ตรงศิริ  ผวจ.มหาสารคาม พร้อมด้วย นายธรรมนูญ แก้วคำ รอง ผวจ.มหาสารคาม ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย.2564 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.โกสุมพิสัย 13 ตำบล 117 หมู่บ้าน,อ.กันทรวิชัย 7 ตำบล 91 หมู่บ้าน,อ.เมืองมหาสารคาม 5 ตำบล 44 หมู่บ้าน,อ.เชียงยืน 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน,อ.กุดรัง 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน ,ที่นา 126,344 ไร่ คงเหลือหมู่บ้านถูกตัดขาด 2 อำเภอ 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน  
         สถานการณ์น้ำในภาพรวม ที่ จ.มหาสารคาม น้ำที่ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำไหลลงสู่แม่น้ำชีอย่างต่อเนื่อง และคลี่คลายตามลำดับ ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำ 2,568.70 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 105.66 % โดยคงการระบายน้ำวันละ 18 ล้าน ลบ.ม.ด้านโครงการชลประทาน ยังเดินเครื่องสูบน้ำในพื้นที่รับผิดชอบ ปริมาณน้ำลดลงตามลำดับ หลังจากนั้น จะควบคุมการเปิดบานระบายและรักษาระดับน้ำไว้ใช้ในการเกษตรช่วงหน้าแล้งต่อไป 
         ที่ อ.โกสุมพิสัย เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีหมู่บ้านถูกตัดขาด และไม่มีสถานที่สำคัญได้รับผลกระทบแล้ว ขณะนี้หลายหน่วยงานเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม โดยเฉพาะถนนที่ชำรุด ดินทรุด เป็นหลุมลึก ไม่สามารถสัญจรได้ รวมถึงการทำความสะอาดสถานที่ บ้านเรือน หลังน้ำลด ซึ่งจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ ส่วนพื้นที่ อ.กันทรวิชัย กุดรัง เชียงยืน และ อ.เมืองมหาสารคาม ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติเช่นกัน
      นายเกียรติศักดิ์ฯ  ผวจ.มหาสารคาม กล่าวว่า หลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน ขับเคลื่อนการช่วยเหลือได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจความเสียหาย การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ต้องรวดเร็ว ทั่วถึง โปร่งใส อย่าให้ตกหล่น ส่วนถนนที่ชำรุด จุดใดเป็นอุปสรรคในการสัญจร หรือไม่ปลอดภัย ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ทำความสะอาดสิ่งกีดขวาง วัสดุตกค้างบนไหล่ทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน หากจุดใดเสียหายหนัก ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าประเมินเพื่อซ่อมแซมหรือของบประมาณต่อไป โดยหลังน้ำลด จะมีการปรับบานระบายประตูน้ำต่างๆ ขอให้บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ และมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงหน้าแล้งนี้
สุรเดช/ข่าว/22 พ.ย.64