( 19 ต.ค.64 )  ที่ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.มหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์  ตรงศิริ  ผวจ.มหาสารคาม พร้อมด้วย นายธรรมนูญ  แก้วคำ รอง ผวจ.มหาสารคาม ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย จ.มหาสารคาม โดยมี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ประจำวัน   
        ข้อมูล ณ วันที่ 19 ต.ค.2564 สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีเข้าท่วมพื้นที่ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.โกสุมพิสัย 12 ตำบล 97 หมู่บ้าน,อ.กันทรวิชัย 6 ตำบล 74 หมู่บ้าน,อ.เมืองมหาสารคาม 4 ตำบล 38 หมู่บ้าน,อ.เชียงยืน 3 ตำบล 15 หมู่บ้าน,อ.กุดรัง 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน ,ที่นา 106,251 ไร่ พืชไร่ 187 ไร่ มีหมู่บ้านถูกตัดขาด 2 อำเภอ 5 ตำบล 17 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.โพนงาม ยางท่าแจ้ง หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย,ต.มะค่า ขามเรียง อ.กันทรวิชัย ต้องสัญจรด้วยรถยกสูงและเรือเท่านั้น โดยเขื่อนมหาสารคาม ระดับน้ำลดลง 1 ซม.,เขื่อนวังยาง ระดับน้ำทรงตัว ล้นตลิ่งประมาณ 1 ม.แต่การระบายน้ำในแม่น้ำชียังคล่องตัว ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 18 ล้าน ลบ.ม.ในวันที่ 19 ต.ค.และ 20 ล้าน ลบ.ม.ในวันที่ 20 ต.ค.จะปรับเพิ่มเป็นขั้นบันไดวันละ 15-25 ล้าน ลบ.ม.หากมากกว่าวันละ 20 ล้าน ลบ.ม.ต้องประชุมหารือร่วมกัน 3 ฝ่ายก่อน (สทนช.ภาค 3 ,เขื่อนอุบลรัตน์,สชป.6 ) โดยให้เขื่อนระบายน้ำสูงสุดได้ไม่เกินวันละ 25 ล้าน ลบ.ม.เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
        ที่ อ.โกสุมพิสัย เชียงยืน กุดรัง และ อ.เมืองมหาสารคาม ระดับน้ำทรงตัว มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำชี  ส่วน อ.กันทรวิชัย ระดับน้ำทรงตัว แต่มีน้ำล้นเข้าพื้นที่ตอนใน จากช่องทางน้ำ 2 จุด คือ บ.กุดหัวช้าง ล้นเข้าท่วมเขต บ.มะกอก บ.หนองแข้ ต.ขามเรียง และจุดประตูระบายน้ำห้วยสามสัตย์ ที่ปิดท่อแล้ว แต่มีน้ำท่วมข้ามถนนเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ บ.ขี้เหล็ก ต.เขวาใหญ่ ได้เสริมกระสอบทรายและผลักดันน้ำออกไม่ให้ขยายเป็นวงกว้าง ส่วนที่ บ. โนนตาล กุดเวียน ต.มะค่า ก็มีน้ำล้นเข้าพื้นที่ตอนในเช่นกัน แต่ยังสัญจรได้    
       นายเกียรติศักดิ์ฯ ผวจ.มหาสารคาม กล่าวว่า ระดับน้ำทุกพื้นที่เริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง  ให้นายอำเภอ เป็นผู้อำนวยการระดับพื้นที่ บริหารจัดการ สำรวจความเสียหาย พื้นที่ประสบภัย มอบถุงยังชีพ และให้ความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ซึ่งจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุน ส่วนมวลน้ำก้อนใหม่จาก จ.ชัยภูมิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประเมินสถานการณ์แล้ว ไม่น่าจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นมาก เนื่องจากฝนตกหนักในระยะสั้น แต่จะกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำที่น้ำจะท่วมขังนานกว่าเดิมราว 15-20 วัน ส่วนการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ให้ติดตามเป็นระยะ เพราะอาจส่งผลกระทบในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ทุกฝ่ายยังต้องเตรียมพร้อมทุกด้าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

สุรเดช/ข่าว/19 ต.ค.64