วิทยุออนไลน์

จังหวัดมหาสารคาม เน้นย้ำการเดินทางกลับไปทำงานของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ กำชับไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถ พร้อมแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

    (17 เม.ย.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 211 ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม นายนพสิทธิ์  อุดมสุวรรณกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานด้านการติดตามประเมินผลและการประชุมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 จังหวัดมหาสารคาม  เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ของอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ/ผู้แทน ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ นายเฉลียว หวังค้ำกลาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะฝ่ายเลขานุการ เข้าร่วมประชุมฯ  โดยข้อมูลอุบัติเหตุ ประจำวันที่ 16 เมษายน 2566 (วันที่ 6)  ช่วงควบคุมเข้มข้น  มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จำนวน 3 ครั้ง บาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย  อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุ คือ อ.กันทรวิชัย จำนวน 1 ครั้ง บาดเจ็บ 1 ราย , อ.เมืองมหาสารคาม  จำนวน 1 ครั้ง  เสียชีวิต 1 ราย และ อ.แกดำ จำนวน 1 ครั้ง บาดเจ็บ 1 ราย  ยอดสะสม  6 วัน (11-16 เม.ย.66)  รวมเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 10 ครั้ง บาดเจ็บ 10 ราย เสียชีวิต  3 ราย  
     สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ   คือ  ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร   ตัดหน้ากระชั้นชิด   และมีสิ่งกีดขวางบนถนน ยานพาหนะที่เกิดเหตุ   ยังคงเป็นรถจักรยานยนต์   ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ประสบเหตุ   ได้แก่  ไม่สวมหมวกนิรภัย     และตัดหน้ากระชั้นชิด  ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุเป็น ถนนกรมทางหลวง รองลงมา คือ ถนนในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ อบจ. บริเวณถนนจุดเกิดอุบัติเหตุ คือ ถนนทางตรง และ ทางโค้ง 
      นายนพสิทธิ์  อุดมสุวรรณกุล  รองผู้ว่าราชจังหวัดมหาสารคาม  กล่าวว่า  การดำเนินงานของ ศปถ.จ.มหาสารคาม ถือว่าสามารถดำเนินการด้านการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อมุ่งลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่เกิน 25% และมีผู้บาดเจ็บลดลง  50%  ผู้เสียชีวิตไม่เกิน 4 คน  ซึ่งได้มีข้อสั่งการในการปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำการเดินทางกลับไปทำงานของประชาชน  ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนออกเดินทาง นอนหลับพักผ่อนในเพียงพอเพื่อป้องกันการหลับใน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เมาแล้วขับ ขับรถย้อนศร รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย และการไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับและคนซ้อนท้าย พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยพิจารณาปริมาณการจราจร หากพบว่า มีปริมาณจราจรหนาแน่นให้ปรับสัญญาณไฟจราจรให้เหมาะสม หรือเปิดช่อง ทางจราจรพิเศษ เพื่อเร่งระบายการจราจรให้เกิดความคล่องตัว การชะลอความเร็วตามความเหมาะสม โดยเฉพาะบนถนนสายหลัก ให้พิจารณาปรับแผนโดยกำหนดมาตรการสร้างความปลอดภัยด้านกายภาพถนนเพิ่มเติมบริเวณจุดเสี่ยง ทางร่วม ทางแยก เช่น จัดทำป้ายเตือน การติดตั้งไฟวับวาบ เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ได้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
สุรเดช/ข่าว/17 เม.ย.66


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar